ย่างกุ้ง หงสา สิเรียม พระธาตุอินแขวน 4 วัน FD 14-17 กรกฎาคม 2554 18,900.-

ขอเสนอโปรแกรมนำเที่ยวประเทศพม่า เยือนดินแดนแห่งศาสนา และ อารยธรรม
ชมพระธาตุมุเตา วัดไจ้คะวาย พระราชวังบุเรงนอง พระไจ๊ปุ่น พระหินอ่อน พระช้างเผือก พระเขี้ยวแก้วเจดีย์ กาบาเอ พระนอนชเวตาเลียง โบตาทาว พระตาหวาน สักการะบนพระธาตุอินแขวท์ สักการะเจดีชเวดากอง พร้อมชมโชว์ พื้นเมือง ณ ภัตตาคารการเวก ***รวมเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน***
โปรแกรมทัวร์พิเศษ
 สักการะพระธาตุอินทร์แขวน
 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเจดีย์ชเวดากอง
 ขอพรพระเทพทันใจ (นัตโบโบยี)
 ไหว้พระวัดบารมี สัมผัสเกศาธาตุอย่างใกล้ชิด
 นมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง พระพุทธรูปนอนที่สวยงามในแบบของมอญ
 ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก อาหารพิเศษ
 เป็ดย่างเสฉวน
 สลัดกุ้งมังกร
 กุ้งแม่น้ำเผา
 อาหารพื้นเมืองพม่า
 บุฟเฟ่ต์นานาชนิด ภัตตาคารการเวก พร้อมโชร์พื้นเมือง
 น้ำดื่มทุกวัน วันละ 1 ขวด


กำหนดเดินทาง : 14-17 กรกฎาคม 2554

วันแรก กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง
14.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาเตอร์ E สายการบินไทย แอร์เอเซียเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก
16.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้ง โดยเที่ยวบินที่ FD 3772 (ไม่มีบริการฟรีอาหารบนเครื่อง)
17.20 น. เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านสู่พักผ่อน ณ โรงแรม PARK ROYAL HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว

วันที่สอง ย่างกุ้ง-หงสาวดี-เจดีย์ไจ๊ปุ่น- เจดีย์ชเวมอดอร์ - วัดพระไฝเลื่อน -พระธาตุอินทร์แขวน
(รวมเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองหงสาวดี หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี ชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งบูรณะเมือง พ.ศ.2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ นำท่านชม เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือพระธาตุมุเตา (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในหงสาวดี สัญลักษณ์ยืนยันความเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งยังเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงหงสาวดีมาช้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ..
ระหว่างทางผ่านชมแม่น้ำสะโตง นำท่านนมัสการวัดไจ๋ป๋อรอ (วัดพระไฝเลื่อน) มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ซึ่งมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับ สถานที่แห่งนี้ รายการ National Geographic Society ได้เคยมาถ่ายทำสารคดีที่นี้มากกว่า 10 ครั้งซึ่งในแต่ละครั้ง ตำแหน่งไฝที่บริเวณหน้าผากจะไม่ตรงกันเลย ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้เที่ยว) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ถึงคิมปูนแค้มป์ หยุดพักเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกหกล้อเพื่อขึ้นบนภูเขาไจ้เที่ยว ใช้เวลาเดินทางจากบริเวณนี้ประมาณ 45 นาที ชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทางพร้อมสัมผัสความเย็นซึ่งจะค่อย ๆ เย็นขึ้นเรื่อย ๆ เดินทางจนเกือบถึงพระธาตุอินทร์แขวนหยุดเปลี่ยนรถเพื่อนั่งเสลี่ยง จากบริเวณนี้ขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
เข้าที่พัก โรงแรม MOUNTAIN TOP HOTEL หรือ ระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้ พระธาตุอินทร์แขวน มีทัศนียภาพงดงามมากท่านจะเห็นทิวเขาซึ่งอยู่รอบ ๆ และตื่นตาตื่นใจกับพระธาตุอินทร์แขวนซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมาก
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม
เชิญท่านไปสักการะพระธาตุ ตามอัธยาศัย สามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้เที่ยว
ควรเตรียม เบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 22.00 น. เท่านั้น พระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรม เรื่อง “ เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ”

คำไหว้พระธาตุอินทร์แขวน
ฤาษีนัง อตุ๊ลัง โลเกอัคคี สินัมปิ สัตตมัน มหาทายัง มหาญาณัง ชาตัง โลกทา เยนะเม
บูเญ นาเนนะ สัมปันปิ สมิชะตุเย ติจชิตัง

คำบูชาพระธาตุในพรหมโลกและดาวดึงส์
พรหมโลกเกทุสสะธาตุ วามะอักขะกะธาตุ โยสัพเพพรหมมาภิปูเชนติถูปัง ทะวาทะสะโยชะนัง
ตาวะติสัมเทวานะจุฬามณี จะ เกสะกัง สัพเพเท
วาภอปูเชนติถูปะญะจะ จะตุโยชะนะ ปูชิตานะระเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโย

วันที่สาม พระธาตุอินทร์แขวน -หงสาวดี-พระราชวังบุเรงนอง-พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง-เทพทันใจ
เจดีย์ชเวดากอง- ไชน่าทาวน์-โชว์พื้นเมือง ณ ภัตตาคารการเวก
05.00 น. เชิญท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวน หรือใส่บาตรตามอัธยาศัย ใส่บาตรพระสงฆ์ ท่านจะพบกับบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่น ทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมา การที่ก้อนหินสีทองวางหมิ่นเหม่บนหน้าผามานานนับพันปี โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์ ไหว้ขอพรเทพเจ้าทันใจ เพื่อความเป็นศิริมงคล ทำบุญประจำวันเกิด (เข้าไปปิดทองได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น) ชาวพม่ามีความเชื่อว่าองค์พระธาตุนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 ของประเทศพม่า ถ้าใครได้ขึ้นมากราบไหว้ครบ 3 ครั้ง จะพบแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะสมปรารถนาทุกประการ
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง และ บัลลังก์ผึ้ง ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองปัจจุบันการขุดค้นยังไม่เสร็จสิสมบูรณ์ แต่ก็พอจะมองเห็นได้ว่า บริเวณของพระราชวังแห่งนี้กว้างใหญ่เพียงใด นมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง กราบนมัสการพระพุทธรูปนอนที่ที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า อีกทั้งท่านสมารถที่จะเลือกหา เครื่องไม้แกะสลัก ที่มีให้เลือกมากมาย ตลอดสองข้างทาง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ โปตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์ ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย ที่นิยมมากราบไหว้ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคล นมัสการ พระเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ซึ่งเป็นเทพที่ชาวไทย และชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพรด้วย เชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนาทันใจดั่งนามของเทพ จากนั้นนำท่านสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกัน

วิธีสักการะเทพทันใจ
ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย มาสักการ ะ* เครื่องสักการะมีขายที่เทพทันใจ* จากนั้นให้เอาเงินจะเป็นเงินดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ เอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าฝากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แล้วอธิฐาน แค่นี้ท่านก็จะสมปรารถนาที่ขอไว้
นำท่านนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (SHAWEDAGON PAGODA) พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง นี้นับเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และชาวต่างชาติมากมายพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสายว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก ปัจจุบันรัฐบาลพม่าได้บูรณะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ให้ความงดงามยิ่งใหญ่สมเป็นมหาเจดีย์องค์สำคัญที่งดงาม

คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ
ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันดัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะ การะนัง ธาตุโย
ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ
อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา

*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสำเร็จ ***
วัน อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ(กลางวัน) พุธ(กลางคืน) พฤหัส ศุกร์ เสาร์
สัตว์สัญลักษณ์ ครุฑ เสือ สิงห์ ช้างมีงา ช้างไม่
มีงา หนูหางยาว หนูหางสั้น พญานาค

คำไหว้พระเจดีย์ชเวดากองนี้เป็นของหลวงปูวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ. ลี้ จ. ลำพูน ในอดีต ท่านได้เคยไปธุดงค์ประเทศพม่าและได้เคยไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง การสรงน้ำพระประจำวัน ตามกำลังวัน และสัตว์สัญลักษณ์วันเกิดการสรงน้ำที่พระเจดีย์ชเวดากองนี้ มีพระประจำวันอยู่ 8 วัน ที่เพิ่มมา คือ วันพุทธกลางคืน หรือวันราหูเรียงตามกำลังวันโดยให้สังเกตสัตว์สัญลักษณ์ของวันเกิดของท่านดังนี้
หมายเหตุ สัตว์สัญลักษณ์นี้ตั้งอยู่ใต้พระประจำวันเกิด นิยมถวายพวงมาลัยหรือถวายฉัตรที่ทำด้วยกระดาษทอง เงิน แดง หรือขาว ที่ พระประจำวัน ขณะสรงน้ำพระ
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารการะเวก
พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ของพม่า อันงดงาม อ่อนช้อย บนทะเลสาบหลวง ภัตตาคารนี้สร้างเลียนแบบเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวกสัตว์ในป่าหิมพานต์ ท่านสามารถเห็นทิวทัศน์ของพระมหาเจดีย์ชเวดากองได้งดงามน่าประทับใจ

จากนั้นนำท่านสู่พักผ่อน ณ โรงแรม PARK ROYAL HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว

วันที่สี่ วัดบารมี-สิเรียม –เจดีย์เยเลพญา (เจดีย์กลางน้ำ)-พระนอนเจาทัตยี-เจดีย์ซูเลย์
ตลาดสก๊อต-วัดพระหินอ่อน- ช้างเผือก - กรุงเทพฯ
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้เมื่อนำมาวางบนมือ จะสามารถเคลื่อนไหวได้อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่าง ๆ ท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม นำท่านชม พระเจดีย์เยเลพญา บนเกาะกลางน้ำที่เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ สามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัวขนาดใหญ่นับร้อย ๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้ท่านได้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ นำท่านเดินทางสู่ เมืองย่างกุ้ง ผ่านชมทัศนียภาพและเก็บภาพความประทับใจของ เจดีย์ซูเลย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมกลางเมืองย่างกุ้ง สร้างในสมัยที่อังกฤษยังปกครองพม่าอยู่ เปรียบเจดีย์ซูเลย์นี้ได้ดั่งหัวใจของย่างกุ้ง เพราะชาวอังกฤษได้วางผังเมืองให้เจดีย์นี้เป็นศูนย์กลาง สวนสาธารณะมหาบัณฑุละ ภายในสวนมีอนุสาวรีย์อิสรภาพ รูปเสาแหลมสูง 40 เมตร ล้อมรอบด้วยเสาหินสูง 9 เมตร 5 ต้น นำท่านชม พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามมาก โดยเฉพาะดวงตา และพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางถึงย่างกุ้ง นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่ สก๊อตมาร์เก็ต ซึ่งสร้างโดยชาวสก๊อตสมัยเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ท่านจะสามารถซื้อหาของที่ระลึกพื้นเมืองได้มากมายในราคาถูก เช่น ไม้ และงาช้างแกะสลัก พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมืองและเครื่องเงิน นำท่านชม วัดพระหินอ่อน ซึ่งเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปทำจากหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนำท่านชมความน่ารัก แสนรู้ของ ช้างเผือก ที่มีลักษณะทั้ง 9 ประการตรงตามตำราโบราณ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน
15.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมิงกาลาดง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
17.50 น. เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 377 (ไม่มีบริการฟรีอาหารบนเครื่อง)
19.35 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

SIAM TRAVEL AND AGENCY บริษัท สยามทราเวล แอนด์ เอเจนซี่ จำกัด
บ้านเลขที่ 189/24 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
www.siamtravel.co.th คุณหญิง MB 085 142 8282 TEL: 02-184-6990-3 FAX : 02-184-6995